Title

ประกาศความเป็นส่วนตัว

สำหรับลูกค้า คู่ค้า และผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ

บริษัท แสงร่มโพธิ์ ออโต้พาร์ท จำกัด (ซึ่งต่อไปนี้ เรียกว่า “บริษัท” ) ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า คู่ค้า และผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ (ซึ่งรวมเรียกว่า “ท่าน”) และเพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าบริษัทจะให้ความคุ้มครอง และปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านทราบรายละเอียดการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าจะเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือ เปิดเผย (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งอาจเกิดขึ้น ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อบริษัท

1. ประเภทบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ภายใต้ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังต่อไปนี้

  • 1.1 ลูกค้า หมายถึง บุคคลที่จ้าง และ/หรือรับบริการจากบริษัท หรือบุคคลอื่นที่ติดต่อสอบถามข้อมูล หรือบริการของบริษัท บุคคลที่รับทราบข้อมูลบริการผ่านสื่อต่างๆ และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่มีความเกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลที่เป็นลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทกับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้สั่งซื้อ ผู้รับสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น
  • รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัทด้วย
  • 1.2 คู่ค้า หมายถึง บุคคลที่จะขายหรือขายสินค้า และ/หรือบริการให้แก่บริษัท ไม่ว่าจะได้ขึ้นทะเบียนเป็นคู่ค้ากับบริษัทหรือไม่ เช่น คู่สัญญา ผู้ให้บริการ ที่ปรึกษา เป็นต้น และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่ค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทกับนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้ประสานงาน ผู้ส่งสินค้า ผู้สั่งจ่ายเช็ค เป็นต้น รวมทั้งบุคคลที่นิติบุคคลนั้นได้ให้ข้อมูลไว้แก่บริษัทด้วย
  • 1.3 ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ หมายถึง บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกค้า คู่ค้า ที่มีความสัมพันธ์ในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจ เช่น ผู้มาติดต่อ และให้หมายความรวมถึงบุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นตัวแทนของนิติบุคคลนั้น เช่น ผู้บริหาร กรรมการ พนักงาน ตัวแทน ผู้แทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใด และบุคคลที่มีข้อมูลส่วนบุคคลปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทกับนิติบุคคลนั้น

2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • 2.1 โดยทั่วไปแล้วไม่ว่าท่านจะเป็นลูกค้า คู่ค้า หรือผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ บริษัทอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ ดังต่อไปนี้
    ข้อที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
    1 เพื่อการติดต่อประสานงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    2 เพื่อการเก็บและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล ตำแหน่ง หน่วยงาน ภาพถ่าย-ภาพเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการดำเนินงาน และกิจกรรมของบริษัท เพื่อการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมลภายในบริษัท เว็บไซต์ของบริษัท หรือสื่ออื่นๆ เช่น สิ่งพิมพ์ เป็นต้น ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    3 เพื่อดำเนินการวางแผน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุรกิจ การบริหาร ความเสี่ยง การกำกับ การตรวจสอบ รวมถึงการบริหารจัดการภายในบริษัท รวมถึงเพื่อใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานภายในเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายเงิน ของหน่วยงานบัญชีการเงินของบริษัท ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    4 เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการโอนสิทธิ หน้าที่ และผลประโยชน์ใดๆ เช่น การทำสัญญาระหว่างกัน หรือซึ่งได้กระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    5 เพื่อเป็นฐานข้อมูลผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ของบริษัท และ/หรือ ใช้ข้อมูลเพื่อการบริหารความสัมพันธ์ หรือการติดต่อประสานงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริษัท รวมถึงการสำรวจความคิดเห็นเพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงการดำเนินงานของบริษัท ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    6 เพื่อการเปิดเผยข้อมูลที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามเกณฑ์การประเมินต่างๆ ที่บริษัทเข้าร่วม ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    7 เพื่อการสืบสวนสอบสวนเรื่องร้องเรียนภายในบริษัท การป้องกันการทุจริต หรือการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายอื่นใด รวมทั้งการตรวจสอบ และจัดการข้อร้องเรียน และข้อกล่าวหาที่เกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัท หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดความโปร่งใส และความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    8 เพื่อพิจารณาให้เข้าร่วมโครงการ หรือกิจกรรมต่างๆ ของ บริษัท เช่น การศึกษาดูงาน การเยี่ยมชมกิจการ งานสัมมนา โครงการอบรม หรือโครงการอื่นๆ ของบริษัท หรือที่บริษัทดำเนินการร่วมกับบุคคลภายนอก หรือหน่วยงานราชการ เป็นต้น ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    9 เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคาร สถานที่ การบันทึกภาพผู้ที่มาติดต่อกับบริษัทด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    10 เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจ การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การดำเนินคดีต่างๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมาย ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    การปฏิบัติตามกฎหมาย
    (Legal Obligation)
    11 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการปฏิบัติตามหมายศาล หนังสือ หรือคำสั่ง ของหน่วยงาน องค์กรอิสระ หรือเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย เช่น การปฏิบัติตามหมายเรียก หมายอายัด คำสั่งของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ อัยการ หน่วยงานราชการ รวมถึงการรายงานหรือเปิดเผยข้อมูลต่อผู้ถือหุ้น หน่วยงานราชการ หรือองค์กรอิสระ เช่น กรมสรรพากร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การปฏิบัติตามกฎหมาย
    (Legal Obligation)
    12 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เช่น การป้องกันด้านสุขภาพจากโรคติดต่ออันตราย หรือโรคระบาดที่อาจติดต่อ หรือแพร่เข้ามาในราชอาณาจักร การปฏิบัติตามกฎหมาย
    (Legal Obligation)
    นอกจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้นบริษัท อาจทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพิ่มเติม ในกรณีต่างๆ ดังต่อไปนี้
  • 2.2 ในกรณีที่ท่านเป็นลูกค้าบริษัทอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เพิ่มเติม ดังนี้
    ข้อที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
    1 เพื่อการพิจารณาอนุมัติคำขอสินค้า และหรือใช้บริการ รวมถึงกระบวนการตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจ และการรับมอบอำนาจ การพิจารณาความเสี่ยงในการเข้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง และ การดำเนินการตามกระบวนการภายในต่างๆ ของบริษัท เพื่อการทำสัญญา การปฏิบัติงานตามสัญญา การให้บริการ รวมไปถึงการติดต่อประสานงาน การเรียกเก็บค่าใช้จ่าย การจัดส่งเอกสารที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น การปฏิบัติตามสัญญา
    (Contractual Basis)

    ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    2 เพื่อประโยชน์ในการประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาการให้บริการ รวมถึงเพื่อสำรวจความพึงพอใจเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัท เพื่อให้เหมาะสม และตรงตามความต้องการของท่าน ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    3 เพื่อใช้เป็นข้อมูล และเอกสารประกอบการดำเนินงานใดๆ กับธนาคาร สถาบันการเงิน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และหน่วยงานภายนอกอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
  • 2.3 ในกรณีที่ท่านเป็นคู่ค้า บริษัทอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้
    ข้อที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
    1 เพื่อการดำเนินการตามกระบวนการต่างๆ ก่อนเข้าทำสัญญา เช่น
    • การขึ้นทะเบียนคู่ค้า
    • การพิจารณาคุณสมบัติของคู่ค้า
    • การจัดเตรียมข้อมูลก่อนเข้าสู่ระบวนการการจัดซื้อจัดจ้าง เช่น การสืบและจัดทำราคากลาง, การระบุชื่อและรายละเอียดของคู่ค้าในระบบภายในของบริษัท เป็นต้น
    • การซื้อหรือรับแบบประมูล การเข้ารับฟังการชี้แจง การนำเสนอผลงานที่เกี่ยวข้องกับงานจัดซื้อจัดจ้าง (แล้วแต่กรณี) ต่อรองราคา การประกาศผลผู้ชนะ
    • การเชิญเสนอราคา การเสนอราคา การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจและการรับมอบอำนาจในการยื่นเอกสารเสนอราคาของผู้เสนอราคา และการพิจารณาคุณสมบัติของผู้เสนอราคากับบริษัทตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัท รวมถึงกรณีที่ผู้เสนอเป็นผู้ให้บริการ ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาธุรกิจ ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษาทางการเงิน สถาบันการเงิน เป็นต้น
    • การจัดทำ Confidentiality Agreement
    การปฏิบัติตามสัญญา
    (Contractual Basis)

    ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    2 เพื่อความจำเป็นในการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้ากับบริษัท เช่น
    • การตรวจสอบยืนยันตัวตน การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจ และการรับมอบอำนาจ รวมทั้งเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
    • การดำเนินการตามกฎ ระเบียบ และกระบวนการภายในต่างๆ ของบริษัท
    • การพิจารณา จัดทำ และลงนามในสัญญาทางการค้า
    • การปฏิบัติตามสัญญาว่าจ้าง สัญญาบริการ สัญญาทางการค้าอื่นๆ และความตกลงหรือความร่วมมือที่เกี่ยวข้องระหว่างบริษัท และคู่สัญญา รวมถึงกระบวนการขอและพิจารณาเอกสารที่เกี่ยวข้องอันอาจมีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการบริษัทซึ่งเป็นบุคคลภายนอกหรือผู้แทนจากหน่วยงานรัฐ
    • การตรวจรับงานตามสัญญาระหว่างบริษัทและคู่ค้าจนแล้วเสร็จ
    การปฏิบัติตามสัญญา
    (Contractual Basis)

    ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    3 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมระหว่างคู่ค้ากับบริษัท เช่น กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร เป็นต้น การปฏิบัติตามกฎหมาย
    (Legal Obligation)
  • 2.4 ในกรณีที่ท่านเป็นผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ บริษัทอาจดำเนินการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เพิ่มเติมดังต่อไปนี้
    ข้อที่ วัตถุประสงค์ ฐานทางกฎหมาย
    1 เพื่อการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ เช่น ติดต่อ นัดพบ เข้าพบ ประชุม ร่วมพบปะพูดคุยทางธุรกิจ รวมถึงการบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับการติดต่อดังกล่าว ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    2 เพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติ หรือประเมินความเหมาะสมก่อนการตัดสินใจเข้าทำธุรกรรม การพิจารณาความเสี่ยงในการเข้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง การพิสูจน์และการยืนยันตัวตน และ/หรือ การตรวจสอบอำนาจ การมอบอำนาจ และการรับมอบอำนาจในการลงนามข้อตกลง หรือสัญญาใดๆ กับบริษัท การตรวจสอบสถานะกิจการ หรือการตรวจสอบประวัติรูปแบบอื่นๆ และการดำเนินการตามกระบวนการภายในต่างๆ ของบริษัท ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)
    3 เพื่อการพิจารณา การจัดทำ การลงนามในสัญญา หรือข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการบริหารสัญญาหรือข้อตกลงดังกล่าว ความจำเป็นเพื่อประโยชน์ โดยชอบด้วยกฎหมาย
    (Legitimate Interests)

    ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมเพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นเป็นข้อมูลที่จำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญา หรือการปฏิบัติตามกฎหมายต่างๆ ที่ใช้บังคับ หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นดังกล่าว บรืษัทอาจไม่สามารถพิจารณาเข้าทำธุรกรรม หรือบริหารจัดการตามสัญญากับท่านได้ (ตามแต่กรณี)

    นอกจากนี้ ในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลของบุคคลอื่นแก่บริษัท ท่านจะต้องรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลเหล่านั้นทราบถึงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และ/หรือ ดำเนินการขอความยินยอม (หากจำเป็น)

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

โดยทั่วไปแล้ว ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยการขอ หรือสอบถามข้อมูลเหล่านั้นจากท่านเองโดยตรง อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี บริษัทอาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านจากแหล่งอื่น เช่น บริษัทต้นสังกัดของท่าน พนักงาน หรือผู้ประสานงานแทนของท่าน หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานของรัฐ หรือแหล่งข้อมูลอื่นๆ ซึ่งเปิดเผยสาธารณะ เช่น เว็บไซต์ ข้อมูลที่ค้นหาได้ทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้

  • 3.1 ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
    • (1) ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน (Identity Data) เช่น เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวบัตรประชาชน เลขหนังสือเดินทาง วันเดือนปี เกิด เพศ อายุ สัญชาติ ลายมือชื่อ ภาพถ่าย ข้อมูลใบอนุญาตขับรถยนต์ เป็นต้น
    • (2) ข้อมูลติดต่อ (Contact Data) เช่น ที่อยู่ สำเนาทะเบียนบ้าน เบอร์โทรศัพท์ เบอร์โทรสาร อีเมล ผู้ติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
    • (3) ข้อมูลทางการเงิน (Financial Data) เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เป็นต้น
    • (4) ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท หรือหน่วยงานที่ทำงาน เช่น บริษัทที่ทำงาน หรือหน่วยงานต้นสังกัด สถานที่ทำงาน ตำแหน่งงาน เป็นต้น
    • (5) ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน การฝึกอบรม ความเชี่ยวชาญ และผลงานต่างๆ เป็นต้น
    • (6) การบันทึกภาพโดยกล้องวงจรปิด CCTV
    • (7) ข้อมูลการเข้าร่วมประชุมระหว่างบริษัท รวมถึงข้อมูลการเข้าร่วมการอบรม สัมมนา กิจกรรม หรือโครงการอื่นๆ ที่บริษัทจัดขึ้น โดยอาจมีการบันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และ/หรือ เสียงระหว่างการประชุม อบรม สัมมนา หรือกิจกรรมดังกล่าว
    • (8) ข้อมูลที่จำเป็นอื่นๆ เพื่อการตรวจสอบประวัติ การประเมินความเหมาะสม หรือการพิจารณาความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจเข้าทำธุรกรรม รวมถึงเพื่อการดำเนินคดี หรือการบังคับคดี เช่น สถานภาพการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สิน เป็นต้น
    • (9) ความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน
    • (10) ข้อมูลการคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคระบาด
  • 3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน

    โดยทั่วไปแล้ว บริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลศาสนา และกรุ๊ปเลือดที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่บริษัท ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าว หากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลข้างต้น ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทดำเนินการปกปิดข้อมูลเหล่านั้นและถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลดังกล่าวมีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ ทั้งนี้ หากบริษัทไม่สามารถปกปิดข้อมูลได้เนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคบางประการ บริษัทจะเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารยืนยันตัวตนของท่านเท่านั้น

    ในกรณีที่บริษัทจำเป็นจะต้องเก็บ รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่าน บริษัทจะขอความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านเป็นกรณีไป ทั้งนี้ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

    บริษัทอาจมีการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อน ดังนี้

    • (1) ข้อมูลศาสนา
    • (2) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ และหรือความพิการ

4. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ หลักเกณฑ์ที่ใช้กำหนดระยะเวลาเก็บ ได้แก่ ระยะเวลาที่บริษัทยังคงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวัตถุประสงค์ และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือตามอายุความทางกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อเหตุอื่นตามนโยบายและข้อกำหนดภายในองค์กรของบริษัท

  • 4.1 ในกรณีที่ท่านเป็นลูกค้า บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับบริษัทสิ้นสุดลง
  • 4.2 ในกรณีที่ท่านเป็นคู่ค้า บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างคู่ค้ากับบริษัทสิ้นสุดลง
  • 4.3 ในกรณีที่ท่านเป็นผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี จนกว่าจะหมดอายุของเอกสาร หรือมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญ

5. การเปิดเผยข้อมูล

ในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกดังต่อไปนี้

  • 5.1 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ องค์การมหาชน องค์กรอิสระที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย หรือหน่วยงานอื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เช่น ศาล ตำรวจ กรมสรรพากร กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กรมบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นต้น
  • 5.2 หน่วยงาน องค์กร หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการใช้สิทธิเรียกร้อง การดำเนินคดี การโต้แย้งข้อร้องเรียน หรือข้อกล่าวหา การต่อสู้คดี เช่น คู่ความในคดี พยาน เป็นต้น
  • 5.3 ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และ/หรือ ผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใดๆ ให้แก่บริษัท เช่น ที่ปรึกษาทางวิชาชีพ บริษัทรับจ้างจัดหาที่พักและการเดินทาง บริษัทรับดำเนินการจัดกิจกรรม งานอบรม หรืองานสัมมนา ผู้รับจ้างจัดกิจกรรม ผู้รับจ้างผลิตสื่อ ผู้รับจ้างประชาสัมพันธ์ ผู้รับประกันภัย ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย เป็นต้น
  • 5.4 ผู้มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจ (ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา กรณีมีการดำเนินโครงการหรือทำธุรกิจร่วมกัน)
  • 5.5 สถาบันให้การรับรองมาตรฐานระบบการจัดการ
  • 5.6 ผู้เข้าร่วมอบรม
  • 5.7 ธนาคาร หรือสถาบันการเงิน
  • 5.8 บุคคลภายนอกอื่นๆ เช่น การประชาสัมพันธ์ภาพกิจกรรม หรือข่าวสารการทำกิจกรรมหรือโครงการ ไปยังสื่อมวลชนและบุคคลภายนอก เป็นต้น
  • 5.9 โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล

6. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูล

ในฐานะที่ท่านเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิตามที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ทั้งนี้ ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ของท่านได้ตามช่องทางที่บริษัทกำหนดในข้อ 9. ซึ่งสิทธิต่างๆ ของท่านมีรายละเอียด ดังนี้

  • 6.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)
    ในกรณีที่บริษัทขอความยินยอมจากท่าน ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ เว้นแต่การเพิกถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมาย หรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบด้วยกฎหมาย
  • 6.2 สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Access)
    ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง และขอรับสำเนาข้อมูลของท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมได้
  • 6.3 สิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Data Portability Right)
    ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัท ได้ตามที่กฎหมายกำหนด
  • 6.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)
    ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวกับท่านสำหรับกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนได้ตามที่กฎหมายกำหนด
  • 6.5 สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล (Erasure Right)
    ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตามบริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งอาจมีบางระบบที่่ไม่สามารถลบข้อมูลได้ ในกรณีเช่นนั้น บริษัทจะจัดให้มีการทำลาย หรือทำให้ข้อมูลดังกล่าวกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้
  • 6.6 สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restrict Processing)
    ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด
  • 6.7 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Rectification Right)
    กรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลที่บริษัทมีอยู่นั้นไม่ถูกต้อง หรือท่านมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเอง ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • 6.8 สิทธิในการร้องเรียน (Right to Lodge a Complaint)
    ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หากบริษัทฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้

7. การรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

  • 7.1 บริษัทจะจัดให้มีระบบเทคนิค และการบริหารจัดการมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับท่านจากการถูกทำลาย การสูญหาย การเข้าถึง การใช้งาน การเปลี่ยนแปลง หรือการเปิดเผย โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยผิดกฎหมาย หรือโดยไม่ได้รับอนุญาต
  • 7.2 บริษัทจะทบทวน และปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัทเป็นครั้งคราวตามความจำเป็น หรือเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยมีประสิทธิภาพ และเหมาะสมสอดคล้องกับข้อกำหนดทางกฎหมายขั้นต่ำตามที่กำหนดโดยหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง

8. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

บริษัทอาจแก้ไขปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นครั้งคราว และเมื่อมีการแก้ไข เปลี่ยนแปลงเช่นว่านั้น บริษัทจะประกาศให้ท่านทราบผ่านทางเว็บไซต์ www.srpth.com ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องขอความยินยอมจากท่าน บริษัทจะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านเพิ่มเติมด้วย

9. วิธีการติดต่อ

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน การใช้สิทธิของท่าน หรือมีข้อร้องเรียนใดๆ โดยท่านสามารถติดต่อกับบริษัทได้ที่ “ติดต่อเรา” ทั้งนี้ ท่านตกลงให้ดุลยพินิจของบริษัทถือเป็นที่สุด