Title

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อรับผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัท โดยบริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ดังนั้น บริษัทจึงมีจุดประสงค์ประกาศนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งเกี่ยวกับสิทธิ และหน้าที่ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท จะดำเนินการให้ผู้ใช้บริการรับทราบ บริษัทให้ความเชื่อมั่นแก่ท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของท่านเป็นข้อมูลที่ทางบริษัทให้ความสำคัญ โดยบริษัทรับประกันจะปกป้อง และประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมอย่างดีที่สุด และข้อมูลทั้งหมดของท่านจะถูกเก็บรักษาเป็นความลับ โดยบริษัทขอแนะนำให้ท่านโปรดอ่าน และทำความเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อรับทราบวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต่อท่านโดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

1. ขอบเขตการใช้บังคับ

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ฉบับนี้ มีขอบเขตการบังคับใช้ครอบคลุมการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่ดำเนินการโดยบริษัท รวมถึงบุคคลใดๆ ซึ่งล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลเนื่องจากเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งจะต้องปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และตามกรอบที่กฎหมายกำหนด สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ใช้บังคับ บริษัทสามารถเก็บรวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม โดยการเปิดเผย และการดำเนินการอื่นที่ไม่ใช่การเก็บรวบรวม และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

2. คำจำกัดความ

  • นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หมายความว่า นโยบายที่บริษัทจัดทำเพื่อแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงการประมวลผลข้อมูลของบริษัท และรายละเอียดต่างๆ ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้กำหนดไว้
  • ข้อมูลส่วนบุคคล มายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรง หรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

    อย่างไรก็ดี ข้อมูลต่อไปนี้ไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ข้อมูลสำหรับการติดต่อทางธุรกิจที่ไม่ได้ระบุถึงตัวบุคคล อาทิ ชื่อบริษัท ที่อยู่ของบริษัท เลขทะเบียนนิติบุคคลของบริษัท หมายเลขโทรศัพท์ของที่ทำงาน อีเมลที่ใช้ในการทำงาน เช่น info@company.co.th ข้อมูลนิรนาม (Anonymous Data) หรือข้อมูลแฝงที่ถูกทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้อีก โดยวิธีการทางเทคนิค (Pseudonymous Data) ข้อมูลผู้ถึงแก่กรรม เป็นต้น

  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) หมายความว่า ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนา หรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใด ซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศ/กำหนด ทั้งนี้ ต่อไปในนโยบายฉบับนี้ หากไม่มีการกล่าวโดยเฉพาะเจาะจงจะเรียก “ข้อมูลส่วนบุคคล” และ “ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว” ที่เกี่ยวกับผู้ใช้บริการข้างต้นให้รวมกันเรียกว่า “ข้อมูลส่วนบุคคล”
  • การประมวลผล หมายความว่า การดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การเก็บรวบรวม บันทึก จัดระบบ ทำโครงสร้าง เก็บรักษา ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง กู้คืน ใช้ เปิดเผย ส่งต่อ เผยแพร่ โอน ผสมเข้าด้วยกัน ลบ ทำลาย
  • เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล It means a natural person who is the owner of personal data. (Data Subject) หมายความว่า บุคคลธรรมดาซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล (Data Controller) หมายความว่า บุคคล หรือนิติบุคคลอื่นซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  • ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Data Processor) หมายความว่า บุคคล หรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่ง หรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้บุคคลหรือ นิติบุคคลที่ดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
  • การใช้คุกกี้ (Cookies) หมายความว่า ไฟล์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก ที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวที่จำเป็น ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเข้าใช้งานเว็บไซต์

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

  • 3.1 บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
    • 3.1.1 ข้อมูลส่วนตัว ได้แก่ คำนำหน้าชื่อ ชื่อเต็ม เพศ อายุ อาชีพ คุณสมบัติ ตำแหน่งงาน ตำแหน่ง หรือฐานะ ประเภทธุรกิจ สัญชาติ ประเทศที่พำนัก วันเดือนปีเกิด สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลบนบัตรที่ออกโดยหน่วยงานราชการ (เช่น เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขประกันสังคม หมายเลขหนังสือเดินทาง เลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ หรือเอกสารระบุตัวตนที่มีลักษณะเดียวกัน เป็นต้น) ทะเบียนบ้าน ลายมือชื่อ เสียง บันทึกเสียง รูป ภาพ รูปถ่าย บันทึกวิดีโอ คลิปวิดีโอ รายละเอียดการเข้าเมือง ได้แก่ วันที่เดินทางมาถึง และเดินทางออกประเทศ เงินเดือน และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ที่ท่านได้มอบให้แก่บริษัท เป็นต้น
    • 3.1.2 รายละเอียดในการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ รายละเอียดในการจัดส่ง รายละเอียดในการเรียกเก็บเงิน รายละเอียดในการติดต่อสื่อสาร ที่อยู่สำหรับส่งใบแจ้งหนี้ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร หมายเลขโทรศัพท์ที่ทำงาน อีเมล ชื่อบัญชีไลน์ (LINE ID) ชื่อบัญชีเฟซบุ๊ก (Facebook ID) บัญชีกูเกิล (Google ID) บัญชีทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ (Twitter or X ID) และบัญชีผู้ใช้ในเว็บไซต์โซเชียลมีเดียอื่นๆ เป็นต้น
    • 3.1.3 ข้อมูลทางการเงิน ได้แก่ ข้อมูลบัตรเครดิต/เดบิตหรือข้อมูลทางธนาคาร หมายเลขบัตร เครดิต/เดบิต ประเภทของบัตรเครดิต วันที่ออกบัตร/วันหมดอายุ รอบบิล รายละเอียดบัญชี รายละเอียด และประวัติการชำระเงิน ข้อมูลของท่านที่เกี่ยวกับรายละเอียดความเสี่ยงสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจ การจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางเครดิตและความสามารถในการชำระหนี้ (Credit Rating and Solvency) ข้อมูลตามแบบประเมินความเสี่ยง (Information in Accordance with the Declaration of Suitability) และข้อมูลทางการเงินอื่นๆ
  • 3.2 บริษัทไม่มีนโยบายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) จากท่าน อย่างไรก็ดี หากมีกรณีที่บริษัทจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านโดยชัดแจ้งก่อนการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือเว้นแต่มีเหตุตามกฎหมายให้ดำเนินการเก็บ รวบรวมข้อมูลดังกล่าวได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม
  • 3.3 ท่านตกลงจะไม่ส่งมอบข้อมูลใดๆ ที่ไม่ถูกต้องและ/หรือที่ทำให้เข้าใจผิดแก่บริษัท และท่านตกลงจะแจ้งให้บริษัททราบถึงความไม่ถูกต้อง หรือการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลนั้น บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะขอให้ส่งมอบเอกสารเพิ่มเติมอื่นใด เพื่อการยืนยันข้อมูลที่คุณได้ให้แก่บริษัทตามที่บริษัทเห็นสมควร
  • 3.4 หากท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่สามแก่บริษัท (เช่น ผู้รับผลประโยชน์ ผู้ติดต่อฉุกเฉิน บุคคลที่อ้างอิง และผู้อ้างอิง) เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลส่วนตัว และข้อมูลเพื่อการติดต่ออื่นเพื่อติดต่อในกรณีฉุกเฉิน กรอกใบสมัคร หรือทำธุรกรรมของท่านกับบริษัท ท่านรับรองว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ถูกต้องตามกฎหมาย กรุณาแจ้งบุคคลเหล่านั้นให้ทราบถึง นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้น

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทเก็บรวบรวม หรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆ จากแหล่งข้อมูลดังต่อไปนี้

  • 4.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงในช่องทางให้บริการต่างๆ เช่น
    • (1) เมื่อท่านได้เข้าถึงและ/หรือใช้บริการของบริษัท
    • (2) เมื่อท่านส่งแบบฟอร์ม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง แบบฟอร์มการสมัคร หรือแบบฟอร์มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัท ไม่ว่าจะแบบออนไลน์ หรือแบบฟอร์มเป็นเอกสาร
    • (3) เมื่อท่านทำข้อตกลงใดๆ หรือให้เอกสาร หรือข้อมูลอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อระหว่างท่านกับบริษัท หรือเมื่อท่านใช้ผลิตภัณฑ์ และบริการของบริษัท
    • (4) เมื่อท่านติดต่อกับบริษัท เช่น ผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย แฟกซ์ การประชุมแบบเห็นหน้ากัน แพลตฟอร์มสื่อทางสังคม และอีเมลแอดเดรส รวมถึงเมื่อท่านได้ติดต่อกับตัวแทนให้บริการลูกค้า (customer service agents)
    • (5) เมื่อท่านใช้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือติดต่อกับบริษัทผ่านแพลตฟอร์มเว็บไซต์ หรือใช้บริการ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการใช้ผ่านคุกกี้ ซึ่งบริษัทอาจปรับใช้เมื่อท่านใช้ หรือเข้าถึงเว็บไซต์
    • (6) เมื่อท่านดำเนินธุรกรรมผ่านบริการของบริษัท
    • (7) เมื่อท่านให้ความคิดเห็น หรือคำร้องเรียนแก่บริษัท
    • (8) ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการอื่นๆ ตามสัญญา หรือตามพันธกิจ เช่น การติดตามพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบริษัทด้วยการใช้คุกกี้
    • (Cookies) หรือจากซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    • (9) เมื่อท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่บริษัทด้วยเหตุผลใดก็ตาม เป็นต้น
  • 4.2 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น
    • 4.2.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น เช่น ข้อมูลสาธารณะ และ/หรือ บริษัทในเครือ (เช่น การได้รับข้อมูลจากผู้ให้บริการที่บริษัทว่าจ้างให้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลแทน) พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท หน่วยงานที่บริษัทให้บริการ (รวมทั้งเว็บไซต์ ตลอดจนชื่อผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของหน่วยงานดังกล่าว) แหล่งข้อมูลของทางการ หน่วยงานของรัฐที่มีฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับบุคคล หน่วยงานภาครัฐ (เช่น กรมสรรพากร กรมบังคับคดี กระทรวงพาณิชย์ ศาล) และจากบุคคลภายนอกอื่นใด (เช่น ผู้ที่แนะนำลูกค้า ผู้แทนของท่าน ผู้ค้า หรือบุคคลอื่นใดซึ่งได้รับมอบอำนาจจากท่าน)
    • 4.2.2 แพลตฟอร์มของบริษัทใช้ Google Analytics ซึ่งเป็นบริการวิเคราะห์เว็บที่ให้บริการโดย Google, Inc. (“Google”) Google Analytics ใช้คุกกี้ ซึ่งเป็นไฟล์ข้อความที่เก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อช่วยเว็บแพลตฟอร์มวิเคราะห์วิธีการใช้งานของผู้ใช้ ข้อมูลที่คุกกี้สร้างขึ้นเกี่ยวกับการใช้งานเว็บแพลตฟอร์ม (รวมถึงที่อยู่ IP ของคุณ) จะถูกส่งและจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์โดย Google ในประเทศสหรัฐอเมริกา Google จะใช้ ข้อมูลนี้เพื่อประเมินการใช้งานเว็บแพลตฟอร์ม รวบรวมรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในเว็บแพลตฟอร์มสำหรับผู้ให้บริการเว็บแพลตฟอร์ม และให้บริการด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของเว็บแพลตฟอร์มและการใช้งานอินเทอร์เน็ต Google ยังอาจส่งข้อมูลนี้ให้แก่บุคคลภายนอกตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ หรือเมื่อบุคคลภายนอกดังกล่าวดำเนินการประมวลผลข้อมูลในนามของ Google จะไม่เชื่อมโยงที่อยู่ IP ของคุณกับข้อมูลอื่นที่ Google เก็บรักษาไว้

5. วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทใช้วิธีการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลด้วยวิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นธรรม โดยจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็น เพื่อใช้ในการติดต่อให้บริการ ประชาสัมพันธ์ หรือให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ รวมทั้งสำรวจความคิดเห็นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในกิจการ หรือกิจกรรมของบริษัท ภายใต้วัตถุประสงค์ในการดำเนินงานของบริษัทเท่านั้น หรือตามที่กฎหมายกำหนด หากมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ และบันทึกเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

6. การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยจะกระทำโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมาย โปร่งใส และเป็นธรรม ภายใต้ฐานการประมวลผล ดังต่อไปนี้

  • 6.1 การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

    การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล ให้กระทำได้ภายใต้วัตถุประสงค์ และเพียงเท่าที่จำเป็นตามกรอบวัตถุประสงค์ หรือเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม โดยต้องแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบก่อน หรือในขณะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลถึงรายละเอียด ดังต่อไปนี้

    • (1) วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม
    • (2) ข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำการเก็บรวบรวม
    • (3) กรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา หรือเพื่อเข้าทำสัญญา โดยต้องแจ้งถึงผลกระทบที่เป็นไปได้จากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
    • (4) ประเภทของบุคคล หรือหน่วยงานซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมอาจถูกเปิดเผย
    • (5) สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  • 6.2 การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

    บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อท่าน เพื่อให้ท่านได้รับบริการที่ดีจากการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมาย และกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง หรือเพื่อปรับปรุงบริการให้ประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งให้ท่านทราบตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อพัฒนามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศในการบริหารความเสี่ยง ตรวจจับ ป้องกันกิจกรรมที่มีแนวโน้มละเมิดกฎหมาย ระเบียบการใช้งานที่เกี่ยวข้อง หรือข้อตกลงเงื่อนไขการใช้เว็บไซต์ รวมถึงเพื่อติดต่อท่านผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ (SMS) อีเมล หรือไปรษณีย์ หรือผ่านช่องทางใดๆ เพื่อสอบถาม หรือแจ้งให้ท่านทราบ หรือตรวจสอบและยืนยันข้อมูล หรือสำรวจความคิดเห็น หรือแจ้งข้อมูลข่าวสารอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ และการให้บริการของบริษัทตามที่จำเป็น

  • 6.3 การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    • 6.3.1 บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม เพื่อประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในด้านต่างๆ แก่ท่าน หรืออำนวยความสะดวกอื่นใดแก่ท่านได้อย่างถูกต้องต่อเนื่อง เพื่อให้ท่านสามารถทำธุรกรรมที่ท่านประสงค์ได้สำเร็จลุล่วง และเกิดประโยชน์สูงสุด โดยการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หรือเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้ก่อน หรือในขณะนั้น เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ ไม่จำเป็นต้องขอความยินยอม
      • (1) เพื่อประโยชน์เกี่ยวกับการวางแผน หรือการสถิติหรือสำมะโนต่างๆ ของหน่วยงานของรัฐ
      • (2) เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
      • (3) เป็นข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยชอบด้วยกฎหมาย
      • (4) เพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวนของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย หรือในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
      • (5) เป็นการปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล
    • 6.3.2 บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลที่สาม ไม่ว่าจะมีสภาพเป็นนิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดา ภายใต้ขอบเขตที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ซึ่งอาจรวมถึง
      • (1) บริษัทในเครือ คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ บริษัทย่อย และ/หรือ ผู้ให้บริการภายนอก เพื่อให้บริการในการนำเสนอสิทธิประโยชน์ และบริการอื่นๆ ของบริษัทแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงการพัฒนา ปรับปรุง ผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลข้อมูล การดำเนินการด้านบัตรเครดิต การให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง การพัฒนาแพลตฟอร์มบริการลูกค้า การส่งอีเมล/SMS การพัฒนาเว็บไซต์ การสำรวจความพึงพอใจ การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยจะมีการทำสัญญารักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ กรณีนิติบุคคลจะต้องมีมาตรฐานด้านความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ
      • หน่วยงานรัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย

      ทั้งนี้ บริษัทจะกำหนดให้ผู้ที่ได้รับข้อมูลมีมาตรการปกป้องข้อมูลของท่านอย่างเหมาะสมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจโดยมิชอบ

7. ข้อจำกัดในการใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  • 7.1 บริษัทจะใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามความยินยอมของท่าน โดยจะต้องเป็นการใช้ตาม วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม จัดเก็บ ข้อมูลของบริษัทเท่านั้น บริษัทจะกำกับดูแลพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยต่อบุคคลภายนอกเว้นแต่
    • 7.1.1 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธี พิจารณาความแพ่งและอาญา เป็นต้น
    • 7.1.2 เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดี ของศาล
    • 7.1.3 เพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
    • 7.1.4 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่บริษัท
    • 7.1.5 เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
    • 7.1.6 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญา หรือ เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
    • 7.1.7 เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์ หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
  • 7.2 บริษัทอาจใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเพื่อให้ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนอกเหนือจากที่บริษัทกำหนด

8. การให้บริการโดยบุคคลที่สามหรือผู้ให้บริการช่วง

บริษัทอาจมีการมอบหมาย หรือจัดซื้อจัดจ้างบุคคลที่สาม (ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล) ให้ทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทน หรือในนามของบริษัท ซึ่งบุคคลที่สามดังกล่าวอาจเสนอบริการในลักษณะต่างๆ เช่น การเป็นผู้ดูแล (Hosting) รับงานบริการช่วง (Outsourcing) หรือเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Services Provider) หรือเป็นงานในลักษณะการจ้างทำของในรูปแบบอื่น การมอบหมายให้บุคคลที่สามทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นั้นบริษัทจะจัดให้มีข้อตกลงระบุสิทธิ และหน้าที่ของบริษัทในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล และของบุคคลที่บริษัทมอบหมายในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงกำหนดรายละเอียดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมอบหมายให้ประมวลผล รวมถึงวัตถุประสงค์ ขอบเขตในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลและข้อตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามขอบเขตที่ระบุในข้อตกลง และตามคำสั่งของบริษัทเท่านั้น โดยไม่สามารถประมวลผลเพื่อวัตถุประสงค์อื่นได้ ในกรณีที่ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลมีการมอบหมายผู้ให้บริการช่วง (ผู้ประมวลผลช่วง) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลแทน หรือในนามของผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะกำกับให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจัดให้มีเอกสารข้อตกลงระหว่างผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลกับผู้ประมวลผลช่วง ในรูปแบบและมาตรฐานที่ไม่ต่ำกว่าข้อตกลงระหว่างบริษัทกับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

9. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ

บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบริษัทในเครือ หรือบุคคลอื่นในต่างประเทศ หรือไปยังผู้รับข้อมูลอื่นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจตามปกติของบริษัท เช่น การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปเก็บไว้บน Server/Cloud ในประเทศต่างๆ ในกรณีที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่าน หรือบุคคลอื่น เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

กรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอ บริษัทจะดูแลการส่ง หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เห็นว่าจำเป็น และเหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานการรักษาความลับ เช่น มีข้อตกลงรักษาความลับกับผู้รับข้อมูลในประเทศดังกล่าว หรือในกรณีที่ผู้รับข้อมูลเป็นบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกัน บริษัทอาจเลือกใช้วิธีการดำเนินการให้มีนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับการตรวจสอบและรับรองจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการให้การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบริษัทในเครือกิจการ/ธุรกิจเดียวกัน ให้เป็นไปตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแทนการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ได้

10. การเก็บรักษา และระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้า หรือยังคงใช้บริการของบริษัท หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้นหากมีกฎหมายกำหนด หรืออนุญาตไว้ เช่น จัดเก็บไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน จัดเก็บไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการพิสูจน์ตรวจสอบกรณีอาจเกิดข้อพิพาทภายในอายุความตามที่กฎหมายกำหนดเป็นระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี

ทั้งนี้ บริษัทจะทำการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

11. การใช้คุกกี้ (Cookies)

คุกกี้ (Cookies) คือ ข้อมูลที่เราส่งไปที่เครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้บริการเว็บไซต์ หรือช่องทางออนไลน์อื่นๆ ของบริษัท และติดตั้งข้อมูลดังกล่าวไว้ในระบบของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยหากมีการใช้คุกกี้ก็จะทำให้เว็บไซต์ของบริษัทสามารถบันทึก หรือจดจำข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไว้จนกว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะออกจากเว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) หรือจนกว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะทำการลบคุกกี้นั้นเสีย หรือไม่อนุญาตให้คุกกี้นั้นทำงานอีกต่อไป

การใช้คุกกี้จะทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับความสะดวกสบายในการใช้บริการผ่านเว็บไซต์ของบริษัทมากขึ้น เพราะคุกกี้จะช่วยจดจำเว็บไซต์ที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแวะหรือเยี่ยมชม ทั้งนี้ บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านในการนำข้อมูลที่คุกกี้ได้บันทึกหรือเก็บรวบรวมไว้ไปใช้ในกรณี ดังต่อไปนี้

  • (1) เพื่อใช้ในการวิเคราะห์เชิงสถิติการใช้งานเว็บไซต์ หรือในกิจกรรมอื่นของบริษัท
  • (2) เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ เนื้อหา และอื่นๆ ภายในเว็บไซต์ให้ตรงต่อความต้องการผู้ใช้งาน

ทั้งนี้ บริษัทจะใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุง หรือเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ จะถูกเก็บเมื่อได้รับการยินยอมจากผู้เข้าชมเว็บไซต์บริษัทฯ และไม่มีการจัดเก็บข้อมูลด้านการตลาด การติดตาม ความสนใจของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อทำการตลาดใดๆ ต่อผู้เข้าชมเว็บไซต์

12. สิทธิเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ของบุคคลภายนอก

ในการใช้บริการเว็บไซต์ของบริษัท อาจมีลิงก์เชื่อมต่อไปยังเครือข่ายสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์ม และเว็บไซต์อื่นที่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการ บริษัทพยายามที่จะเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์ที่มีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่สามารถรับผิดชอบในเนื้อหา หรือมาตรฐาน การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์อื่นนั้น เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นประการอื่น ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่ท่านให้แก่เว็บไซต์ของบุคคลภายนอกนั้นจะถูกเก็บรวบรวมโดยบุคคลดังกล่าว และอยู่ภายใต้ประกาศ/นโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกดังกล่าว (หากมี) ในกรณีเช่นว่านี้ บริษัทไม่อาจควบคุม และไม่อาจรับผิดชอบในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยบุคคลภายนอกดังกล่าว

13. มาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล

ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบริษัท และบริษัทได้นำมาตรการรักษาความปลอดภัยทางเทคนิค และการบริหารที่เหมาะสมมาใช้ เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลจากการสูญหาย การเข้าถึง การใช้หรือการเปิดเผยโดยไม่ได้รับอนุญาต การใช้งานในทางที่ผิด การดัดแปลงเปลี่ยนแปลง และการทำลายโดยใช้เทคโนโลยีและขั้นตอนการรักษาความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและการจำกัดการเข้าถึง เพื่อให้มั่นใจว่าบุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและบุคคลเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง การใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้ที่ไม่มีสิทธิหรือหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็น หรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีความเสียหายใดๆ อันเกิดจากการใช้ หรือการเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลที่สาม รวมถึงการละเลยหรือเพิกเฉยการออกจากระบบ (Log out) ที่เจ้าของข้อมูลได้ เข้าใช้งานโดยการกระทำของเจ้าของข้อมูลหรือบุคคลอื่นซึ่งได้รับอนุญาตจากเจ้าของข้อมูล

14. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิ

  • (1) สิทธิในการเพิกถอนความยินยอมให้บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • (2) สิทธิในการเข้าถึง และรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้เก็บรวบรวม การใช้ เปิดเผย
  • (3) สิทธิในการขอให้โอนย้ายข้อมูล ส่วนบุคคลของท่าน
  • (4) สิทธิในการคัดค้าน การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • (5) สิทธิในการขอให้ลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งไม่อาจระบุตัวตนได้
  • (6) สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • (7) สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
  • (8) สิทธิที่จะร้องเรียนในกรณีที่ท่านเห็นว่าถูกบริษัท หรือเจ้าหน้าที่ หรือตัวแทนของบริษัทละเมิดสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

การร้องขอใดๆ เพื่อการใช้สิทธิของท่านตามที่กล่าวข้างต้น จะต้องกระทำเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดที่จะดำเนินการภายในระยะเวลาที่สมเหตุสมผล และไม่เกินระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยบริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวกับสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลการใช้สิทธิของท่านตามข้อ 14 อาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น หากบริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการคิดค่าบริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นต่อการเข้าดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

15. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะทำการพิจารณาทบทวนนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประจำเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ และกฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญใดๆ พร้อมกับนโยบายฉบับปรับปรุงผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงนโยบายฉบับนี้เป็นระยะๆ

16. กฎหมายที่ใช้บังคับ

ท่านรับทราบ และตกลงให้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อยู่ภายใต้การบังคับ และตีความตามกฎหมายไทย และศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใดที่อาจเกิดขึ้น

17. การปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและช่องทางการติดต่อ

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย หรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือการปฏิบัติตามนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ บริษัทยินดีตอบข้อสงสัย และรับฟังข้อเสนอแนะของท่าน โดยท่านสามารถติดต่อกับบริษัทได้ที่ “ติดต่อเรา” ทั้งนี้ ท่านตกลงให้ดุลยพินิจของบริษัทถือเป็นที่สุด